ลดค่าไฟฟ้าจากแอร์ที่บ้าน ง่ายๆ และได้ผล

ลดค่าไฟฟ้าจากแอร์บ้าน ง่ายๆ และได้ผล

บิลค่าไฟฟ้า

          เมืองไทยขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองร้อน (ยิ่งตอนนี้ร้อนมากๆ) เพราะเช่นนี้บ้านหลายหลัง หรือ หลายครอบครัวจึงติดแอร์ที่บ้านมีการใช้เครื่องปรับอากาศ หรือแอร์บ้านช่วยให้คลายร้อน และ สามารถนอนหลับแบบสบายในยามที่เหนื่อยจากการทำงาน

แอร์แคเรียร์

                แต่ปัญหาที่ตามมาของการใช้แอร์บ้าน ก็คือค่าไฟฟ้าที่เห็นบิลทีเมื่อไหร่เป็นเข่าอ่อนทุกที เพราะคุณรู้หรือไม่ถ้าคุณมีการใช้งานแอร์ที่บ้านอยู่เป็นประจำทุกวัน ค่าไฟฟ้าเกือบครึ่งหรือเกินครึ่งของบิลค่าไฟมาจากแอร์ที่บ้านของคุณเอง

 

เราจะมีวิธีลดค่าไฟฟ้าของแอร์ ได้ยัง มาดูวิธีง่ายๆ ที่ลดค่าไฟฟ้าของเครื่องปรับอากาศของคุณแบบเห็นผลทันที

1.เริ่มแรกก่อนซื้อแอร์บ้านต้องเลือกประหยัดไฟเบอร์ 5เพราะมีค่า EER และ COP สูง

ฉลากเบอร์ 5

2.เปรียบเทียบเบอร์ 5 ของแต่ล่ะยี่ห้อว่ายี่ห้อไหนประหยัดสุด ดูจาก EER เช่น EER=11.6 เบอร์ 5 อีกเครื่อง EER=12.1 เบอร์ 5 เหมือนกัน แต่ตัว 12.1 นี้ประหยัดกว่า เพราะไฟฟ้าที่ใช้ 1วัตต์ ได้ตั้ง 12.1 BTU แหน่ะ

3.เลือกขนาดที่พอดีกับพื้นที่ภายในห้องโดยการหาขนาดห้องคิดเป็น ตร.ม.แล้วคูณด้วย BTU สูตรนี้เฉพาะฝ้าสูงไม่เกิน 3 ม. ส่วนห้องที่หันหน้าเข้าแดดหรือโดนแดดตลอดเวลาให้คูณไปอีก 20%

ห้องนอน 700-750 BTU/ตร.ม.

ห้องนั่งเล่น 750-850 BTU/ตร.ม.

ห้องทานอาหาร 800-950 BTU/ตร.ม.

ห้องครัว 900-1000 BTU/ตร.ม.

ห้องทำงาน 800-900 BTU/ตร.ม.

ห้องประชุม 850-1000 BTU/ตร.ม.

 

สูตรข้างต้น ใช้ในคำนวณกรณีที่ความสูงของฝ้าเพดานที่สูงไม่เกิน 3 เมตร เท่านั้น หากห้องมีความสูงมากกว่า และอาจมีปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มขึ้น อาทิเช่น จำนวนผู้อยู่อาศัยในห้องปรับอากาศนั้น เครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนเท่าไหร่ หรือ กระจกภายในห้อง จะต้องบวกค่า BTU เพิ่มขึ้นด้วย โดยมีการคิดค่า BTU ของสิ่งต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน เช่น คน 1 คน ต่อ 800 BTUค่าไฟแอร์

 

4.ตั้งอุณหภูมิให้พอเหมาะกับอุณหภูมิของร่างกาย อุณหภูมิที่พอเหมาะไม่ร้อนไม่หนาวคือ 25 องศาเซลเซียส ประหยัดไฟอีกด้วย

5.ลดการใช้เครื่องใช้ฟ้าในห้องปรับอากาศ เช่น ตู้เย็น กระติกน้ำร้อน ทั้งหมดย่อมเพิ่มภาระการทำความเย็นให้กับเครื่องปรับอากาศ

6.ไม่นำน้ำหรืออุปกรณ์ที่เปียกชื้นไว้ในห้องปรับอากาศ เพราะจะทำให้เป็นการเพิ่มภาระของเครื่องเนื่องจากต้องเอาความชื้นจากในห้องออกด้วยเพื่อลดอุณหภูมิ

7.ไม่สวมเสื้อผ้าที่หนาเกินไป เผื่อให้ร่างกายสามารถถ่ายเทความร้อนออกได้สะดวก ทำให้รู้สึกเย็นเร็วขึ้น

8.ห้องที่ติดแอร์มีกระจกเยอะ ควรมีผ้าม่านมากันแสงเพื่อลดความร้อน ของแสงแดดที่ถูกถ่ายเทมายังห้องปรับอากาศ

9.ตำแหน่งของเครื่องปรับอากาศนี้สำคัญเลย ถ้าเลือกไปติดบนหัวนอนนี่จบข่าวเลย เพราะ จะได้ลมที่สูญเสียอุณหภูมิแล้วหรือ ลมรีเทิร์นมาสัมผัสกับผิวหนังทำให้รู้สึกไม่ค่อยเย็น จึงต้องลดอุณหภูมิแอร์ ทางแก้ง่ายๆ ย้ายตำแหน่งเตียงใหม่

ตำแหน่งแอร์
ตำแหน่งแอร์

10.ล้างแผ่นกรองอากาศทุกเดือน หรือ 2 เดือนครั้ง แค่นี้ก็ลดค่าไฟได้สุดๆแล้ว

11.ล้างทำความสะอาดแอร์ตามรอบเวลาที่กำหนด เพื่อลดการสะสมของฝุ่นและช่วยให้การทำงานของแอร์มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น เช่นแอร์ 12000BTU ต้องการปริมาณลมที่ 400 CFM แต่ คอยล์แอร์ตัน ส่งลมได้เพียง 300 CFM ทำให้ความสามารถลดลง และกินไฟมากขึ้นด้วย เพราะ เมื่อปริมาณลมไม่พอจะไปลดอุณหภูมิภายในห้องแล้วนั้น คอมเพลสเซอร์ก็จะทำงานหนักขึ้นเปลืองไฟขึ้น บ้านบางหลังก่อนล้างแอร์ ค่าไฟ 3 พัน ล้างแอร์แล้วเหลือ 2พัน ประหยัดเห็นๆ

ฟิลเตอร์แอร์

12.คอยล์ร้อนหรือชุดคอมเพลสเซอร์หาตำแหน่งติดตั้งดีๆ ไม่ตากแดด มีอากาศถ่ายเทสะดวก การระบายความร้อนดีก็ทำให้ช่วยประหยัดขึ้นไปอีก

13.ปลูกต้นไม้และเพิ่มความชุ่มชื้นบริเวณบ้านเพื่อลดความร้อนสะสมภายในตัวบ้าน เช่นบ้านเย็นแอร์ก็เย็นไวขึ้น

14.ตั้งเวลาปิดเครื่องปรับอากาศก่อนตื่นนอน 1 ชม.นี่ก็ลดการใช้แอร์ไปแล้ว 30 ชม. ต่อเดือน โดยแอร์รุ่นใหม่ทุกรุ่นมีตั้งเวลาเปิดและ-ปิด เพราะในช่วงก่อนตื่นนอน 1 ชม.นั้นสามารถปิดได้เพื่อให้ร่างกายได้ปรับอุณหภูมิไปในตัว

สนใจรายละเอียดสินค้า และสอบถามข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ 094-182-8636  

หรือส่งอีเมลมาที่ chillerinnovations@gmail.com  

ข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่นี้>>>www.chillerinnovations.com